ไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูป ‘แบตเตอรี่’ ควรทำอย่างไร?

หากไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูป ‘แบตเตอรี่’ ขึ้นมาและไม่ยอมดับลงจนกว่าเราจะดับเครื่อง นั่นคือสัญญาณเตือนความผิดปกติของแบตเตอรี่หรือระบบไฟของรถยนต์ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ คุณสามารถเช็กและแก้เบื้องต้นได้เองหรือไม่ หรือควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญ บทความนี้มีคำแนะนำ

ไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูปแบตเตอรี่เกิดจากอะไร

เมื่อคุณสตาร์ตรถยนต์ ไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูป ‘แบตเตอรี่’ ขึ้นมาสักครู่แล้วจึงดับถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากว่าไฟรูปแบตเตอรี่ยังโชว์อยู่ต่อไปเป็นระยะเวลานานหรือจนกว่าเราจะดับเครื่องยนต์ นั่นคือสัญญาณว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณมีปัญหาแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูปแบตเตอรี่ขึ้นมาอาจเกิดได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้

แบตเตอรี่รถยนต์ต่ำหรือหมด

การที่ไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูปแบตเตอรี่ออาจเป็นเพราะว่าแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณหมด ซึ่งนี่ถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะรถยนต์ที่ไม่ได้ปิดไฟ ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถ หรือเกิดจากที่ไม่ได้ใช้รถยนต์คันนั้นมานาน จนทำให้กระแสไฟในแบตเตอรี่ต่ำหรือหมด คุณจึงไม่อาจสตาร์ตรถยนต์ได้ อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถไม่ทำงาน หรือเมื่อสตาร์ตรถยนต์แล้วจะได้ยินเสียงแกร๊ก ๆ ลากยาวแต่รถไม่ติด พร้อมทั้งโชว์ไฟรูปแบตเตอรี่ที่หน้าปัดรถยนต์ขึ้นมา

คุณสามารถตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีกระแสไฟฟ้าเหลืออยู่มากน้อยแค่ไหนด้วยเครื่องวัดแบตเตอรี่ (Voltmeter) โดยเชื่อมต่อขั้วลบซึ่งเป็นสีดำเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่ และขั้วบวกของเครื่องวัดแบตเตอรี่ซึ่งเป็นสีแดงเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่ จากนั้นอ่านค่าที่หน้าจอเครื่องวัดแบตเตอรี่

ค่าแรงดันไฟฟ้ามากกว่า 12.6 V คือแบตเตอรี่ปกติ
ค่าแรงดันไฟฟ้าอยู่ระหว่าง 12.4 – 12.6 V คือแบตเตอรี่ใกล้หมด
ค่าแรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า 12.4 V คือแบตเตอรี่หมดพลังงาน ไม่มีกระแสไฟฟ้าเหลืออยู่

วิธีแก้ไขเมื่อกระแสไฟในแบตเตอรี่ต่ำหรือหมด

ใช้สายจัมป์แบตเตอรี่เพื่อส่งกระแสไฟจากแบตเตอรี่จากรถยนต์คันอื่นมายังรถยนต์ของคุณ จากนั้นนำรถยนต์ไปขับขี่ตามปกติสักครู่เพื่อให้แบตเตอรี่ได้เก็บกระแสไฟฟ้ากลับเข้ามา ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้ในกรณีที่คุณลืมปิดไฟหรืออุปกรณ์ในรถยนต์ทำให้กระแสไฟในแบตเตอรี่ต่ำมาก
เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ เนื่องจากแบตเตอรี่หมดและเสื่อมสภาพ ซึ่งโดยปกติแล้วแบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2 ปี

แต่หากว่าคุณไม่มีเครื่องวัดแบตเตอรี่ คุณสามารถลองจัมป์แบตเตอรี่เพื่อแก้ไขเบื้องต้นได้ หากว่าอาการยังไม่หาย อาจจะต้องเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้

ระบบไฟฟ้าของรถยนต์มีปัญหา

สาเหตุที่ไฟหน้าปัดโชว์รูปแบตเตอรี่เตือนขึ้นมาอาจเป็นเพราะระบบไฟฟ้าของรถยนต์มีปัญหา เช่น ฟิวส์เสีย สายไฟขาด ขั้วแบตเตอรี่ไม่แน่น หลวม หรือสึกหรอ

วิธีแก้ไขเมื่อระบบไฟฟ้ามีปัญหา

ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ เช็ดรอยไหม้ที่เกิดจากการกัดกร่อนให้สะอาด แล้วเสียบขั้วแบตเตอรี่กลับไปยังจุดเดิมให้แน่น
หากฟิวส์ขาด สายไฟขาด ให้เปลี่ยนฟิวส์หรือสายไฟใหม่ แนะนำให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่นี้ เพราะหากคุณไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจต่อสายไฟผิดได้

สายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่แสดงโชว์ขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์ก็คือไดชาร์จมีปัญหา สายพานไดชาร์จอาจหย่อยหรือขาด ซึ่งเกิดจากการโดนน้ำ เสียดสี หรือเสื่อมสภาพตามระยะการใช้งาน

เมื่อสายพานไดชาร์จที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างไดชาร์จหรือเครื่องปั่นไฟกับเครื่องยนต์ทำงานไม่ได้ ก็ไม่อาจส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปหมุนไดชาร์จให้สร้างกระแสไฟฟ้าสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และให้พลังงานไฟฟ้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ ไฟในแบตเตอรี่จึงต่ำจนทำให้ไฟโชว์บนหน้าปัดรถยนต์

วิธีแก้ไขเมื่อสายพานไดชาร์จหย่อยหรือขาด: เปลี่ยนสายพานไดชาร์จใหม่โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ

ไดชาร์จพัง

การที่ไดชาร์จพังจะส่งผลให้ไฟเตือนรูปแบตเตอรี่แสดงโชว์ขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์ได้เช่นกัน แม้จะไม่พบบ่อยก็ตาม หากไดชาร์จพัง ไดชาร์จไม่หมุน จะส่งผลต่อการแปลงพลังงานจากเครื่องยนต์ไปเป็นพลังงานไฟแล้วส่งต่อไปเก็บไว้ยังแบตเตอรี่ได้ ซึ่งนั่นก็จะส่งผลให้ไม่สามารถสตาร์ตรถยนต์และใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ได้

วิธีแก้ไขเมื่อไดชาร์จพัง: คุณควรพารถยนต์ของคุณไปที่อู่ซ่อม เพื่อให้ช่างทำการตรวจสอบและเปลี่ยนไดชาร์จใหม่

สรุป

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาไฟหน้าปัดรถยนต์โชว์รูป ‘แบตเตอรี่’ แจ้งเตือนอาการผิดปกติขึ้นมาอีก คุณควรตรวจเช็กและทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ เปลี่ยนแบตเตอรี่ตามอายุการใช้งาน และเข้าเช็กสายพานและไดชาร์จเป็นประจำ เพื่อให้การสตาร์ตรถเป็นไปอย่างราบรื่น เลี่ยงอาการสตาร์ตไม่ติดในวันและเวลาที่ต้องการใช้งานรถยนต์

นอกจากนี้คุณควรเช็กน้ำมันเครื่อง เช็ก 9 จุดสำคัญของรถยนต์ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอันตรายระหว่างขับขี่ ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล

พบกับเคล็ดลับดูแลรักษายนต์อื่น ๆ เช่น เช็กน้ำมันเครื่อง เช็ก 9 จุดสำคัญของรถยนต์ การดูแลยางและลมยาง รวมถึงการดูแลรักษาช่วงล่างและการปรับช่วงล่างรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ได้ที่เว็บไซต์ Profender4x4.com หรือหน้าเฟสบุ๊ก Profendershox