โช๊คอัพมีความสำคัญสำหรับรถเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยซับแรงกระแทกกระเทือนแล้ว ยังช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วย เมื่อใช้ไปนาน ๆ โช๊คอัพมักมีปัญหาเกิดขึ้น เช่น การเสื่อมสภาพ การรั่วซึม หรืออื่น ๆ ซึ่งบางอาการสามารถแก้ได้ด้วยเอง Profender จึงรวมปัญหาของโช๊คอัพที่พบบ่อย ๆ พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง
ปัญหาที่พบบ่อยกับโช๊คอัพและวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง
1. รถกระเด้งมากกว่าปกติ ไม่ซับแรงสะเทือน
หากคุณรู้สึกว่ารถกระเด้งกระดอนมากกว่าปกติ รับรู้ถึงแรงกระแทกแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนนมากกว่าปกติแล้วละก็ นั่นอาจจะเป็นเพราะโช๊คอัพเริ่มเสื่อมสภาพ หรือไม่ก็เลือกใช้สปริงที่ไม่เหมาะสม เสื่อมสถาพ
วิธีแก้ไข
- ตรวจสอบโช๊คอัพว่ามีน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ หากมี ควรเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ หรือหากว่าโช๊คอัพนั้นสามารถซ่อมได้ก็ควรนำไปซ่อมโดยด่วน
- ตรวจสอบความเสื่อมของโช๊คอัพด้วยการกดท้ายรถแรง ๆ หากมันกระเด้งกลับแบบรุนแรงหรือเด้งติดต่อกัน 2-3 ครั้ง แสดงว่าโช๊คอัพเริ่มเสื่อมแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
2. รถมีเสียงดังกุกกักผิดปกติขณะขับขี่
หากมีเสียงดังกุกกักมาจากใต้ท้องรถขณะขับขี่อยู่ เป็นไปได้ว่าจะเกิดจากบูชยางหรือหัวโช๊คอัพเสื่อมสภาพก็เป็นได้ หรือเพราะไขน็อตยึดโช๊คอัพไม่แน่นพอ และอาจจะเกิดจากอุปกรณ์ช่วงล่างอื่นๆร่วมด้วย
วิธีแก้ไข
- เปลี่ยนบูชยางหัวโช๊คอัพใหม่ หากว่าบูชยางแข็งหรือแตก
- ตรวจสอบว่าได้ไขน็อตยึดโช๊คอัพแน่นทุกจุด

3. รถโคลงเคลงไปด้านใดด้านหนึ่ง
หากว่ารถเอียงหรือโคลงเคลงไปด้านใดด้านหนึ่ง สาเหตุอาจเป็นเพราะโช๊คอัพฝั่งใดฝั่งหนึ่งเสื่อมสภาพหรือเสีย ซึ่งส่งผลให้รถโคลงหรือเอียงไปด้านนั้น และอีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้ก็คือสปริงข้างใดข้างหนึ่งยุบหรือเสียหายจนไม่อาจช่วยพยุงตัวรถได้
วิธีแก้ไข
- ตรวจสอบความสูงของรถจากพื้นถึงซุ้มล้อทั้งสี่ด้าน หากด้านใดด้านหนึ่งต่ำกว่าปกติ ควรเปลี่ยนสปริงหรือโช๊คอัพ
- หากโช๊คอัพเสีย ควรเปลี่ยนเป็นคู่ ไม่ควรเปลี่ยนเพียงข้างเดียว เพื่อให้โช๊คอัพทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสมดุล
4. พวงมาลัยสั่นหรือควบคุมรถได้ยาก
โช๊คอัพไม่ได้เพียงแค่ช่วยซับแรงกระแทกกระเทือนจากพื้นถนน ช่วยให้รถนั่งสบายเท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยและความสมดุลในการขับขี่ ไม่ให้รถหลุดโค้ง หากโช๊คอัพไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อาจส่งผลต่อการควบคุมและความปลอดภัยได้ และอีกสาเหตุอาจเป็นบูชปีกนกเสื่อมสภาพ
วิธีแก้ไข
- ตรวจสอบว่าโช๊คอัพเสื่อมสภาพหรือไม่ ด้วยการขับผ่านถนนขรุขระ หากรถโยกโยนตัวผิดปกติ แสดงว่าโช๊คอัพเสื่อมสภาพแล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่ทันที
- ตรวจสอบบูชปีกนก หากสึกหรอ หลวม หรือหัก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
5. ยางสึกไม่สม่ำเสมอ
หากหน้ายางสึกไม่เท่ากัน สึกเป็นริ้ว ๆ ไม่สม่ำเสมอ แสดงว่าโช๊คอัพมีปัญหาแล้ว เพราะโช๊คอัพจะช่วยกดล้อเอาไว้ ให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ ล้อไม่ลอยจากพื้นถนน ดังนั้นหากยางสึกไม่เท่ากันก็หมายความว่าโช๊คอัพเริ่มเสื่อมสภาพ
วิธีแก้ไข
- ตั้งศูนย์และถ่วงล้อใหม่
- เปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ เพื่อให้โช๊คอัพที่เต็มประสิทธิภาพช่วยกดล้อให้สัมผัสถนนตลอดเวลา
6. โช๊คอัพมีน้ำมันรั่วซึม
หากมีน้ำมันไฮดรอลิกรั่วซึมออกมาจากโช๊คอัพ อาจเป็นเพราะโช๊คอัพได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรง หรือซีลฉีกขาดจนน้ำมันไฮดรอลิกรั่วออกมา ซึ่งจะส่งผลให้โช๊คอัพทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่ซับแรงสะเทือน ไม่เกาะถนน และควบคุมได้ยาก
วิธีแก้ไข
- หากมีคราบน้ำมันซึมมาก ควรเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่หรือนำไปซ่อมแบบโอเวอร์ฮอลหรือยกเครื่องใหม่ทั้งหมด
- หากเพิ่งเปลี่ยนโช๊คอัพมาใหม่ไม่นาน ควรตรวจสอบดูว่าการติดตั้งถูกต้องหรือไม่
สรุป
โช๊คอัพไม่ได้เพียงแค่ช่วยซับแรงกระแทกแรงสะเทือนต่าง ๆ จากพื้นถนนเอาไว้ช่วยให้รถนั่งสบายนิ่มนวลแล้ว ยังช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย ควบคุมทิศทางได้แม่นยำ รถไม่โคลงเคลงจนเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ การดูแลโช๊คอัพจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
Profender มีโช๊คอัพที่สามารถถอดออกมาซ่อมแซมได้ ช่วยให้ประหยัดเงินกระเป๋าได้ค่อนข้างมาก คุณจึงมั่นใจได้ว่าโช๊คอัพของ Profender มีคุณภาพและประสิทธิภาพระดับสูง
สนใจโช๊คอัพ Profender หรือต้องการคำแนะนำเรื่องช่วงล่างหรือโช๊คอัพ คุณสามารถติดต่อขอคำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ Facebook: Profendershox
สินค้าที่น่าสนใจ
NAVARA PRO4X
ALPHARD
Pickup/Suvs/Van
Pickup/Suvs/Van