หากคุณเพิ่งเปลี่ยนโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์มาใหม่กริบ แต่ยังเจอความ แข็งกระด้าง อยู่ Profender มีวิธีแก้ไขแบบง่ายมาฝาก!
ปัญหาปวดหัว หากว่า คุณเปลี่ยนโช๊คอัพมาใหม่แล้วแต่ยังรู้สึกถึงความแข็งกระด้างตอนขับขี่อยู่ จะเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่อีกครั้งก็คงไม่ใช่ เพราะมันอาจจะไม่ใช่ต้นเหตุของความแข็งกระด้างเสียทีเดียว แต่อาจจะเป็นเพราะสาเหตุอื่น ๆ ก็เป็นได้ เช่นสาเหตุดังต่อไปนี้
สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้โช๊คอัพ แข็งกระด้าง
สปริง
สปริง คือ อะไหล่อีกหนึ่งชิ้นที่ส่งผลต่อความนิ่มนวลในการขับขี่
- สปริงแข็งเกินไป สปริงไม่ยุบตัว เมื่อรถเจอกับแรงกระแทกเจอกับหลุมบ่อ โช๊คอัพจึงไม่อาจยืดและยุบตัว เพื่อรองรับแรงกระแทกนั้นๆ ได้
- สปริงอ่อนเกิน รถจะยุบตัวเร็วเกินไป ดังนั้นคุณอาจจะต้องเปลี่ยนสปริงใหม่ ให้เหมาะกับการใช้งาน
หากคุณมีคนซ้อนท้ายหรือบรรทุกน้ำหนักมากกว่า 120 กิโลกรัมเป็นประจำ คุณควรเปลี่ยนสปริงใหม่ที่รองรับการใช้งานประเภทนี้ เพื่อให้ระยะยืด-ยุบของสปริงและโช๊คอัพสัมพันธ์กัน แล้วโช๊คอัพจะช่วยซับแรงกระแทกแรงสะเทือนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ลมยาง
หากลมยางมอเตอร์ไซค์แข็งเกินไป ก็ส่งผลต่อความแข็งกระด้างในการขับขี่เช่นกัน แถมยังทำให้รถปัดได้ง่าย ควบคุมได้ยากอีกด้วย
แต่หากว่าลมยางอ่อนเกินไปก็จะส่งผลให้เร่งเครื่องได้ยาก ขี่แล้วรู้สึกหนืด ๆ และยังกินน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย
ค่าลมยางมาตรฐานที่แนะนำตามคู่มือจะอยู่ 28-32 PSI สำหรับ 1 คน และ 32-40 PSI สำหรับ 2 คนขึ้นไป (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
ทั้งนี้รถมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นอาจมีค่ามาตรฐานต่างกันไป โดยสามารถดูจากสติกเกอร์แนะนำปริมาณลมยางที่เหมาะสม ซึ่งมักจะติดอยู่บริเวณสวิงอาร์มหน้าหลังซ้ายหรือใต้เบาะนั่งผู้ขับขี่
ปรับความนุ่มหนืด
หากโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์ของคุณสามารถปรับความนุ่มหนืดได้ หรือปรับค่ารีบาวนด์ (Rebound) แนะนำให้คุณค่อย ๆ ปรับระดับความนุ่มหรือหนืดขึ้นทีละระดับเพื่อให้ได้ความนุ่มหรือแข็งที่ต้องการ
หากเป็นโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์จาก Profender รุ่น X Series ที่สามารถปรับค่ารีบาวนด์ได้มากถึง 16 ระดับ เราขอแนะนำให้ปรับเอาไว้ที่ระดับ 8 ซึ่งเป็นระดับตรงกลาง เป็นค่ามาตรฐาน แล้วจากนั้นจึงค่อย ๆ ปรับหมุนเพิ่มหรือลดตามความชอบ ยิ่งตัวเลขมากยิ่งหมายถึงความแข็งมาก
ตรวจสอบโช๊คอัพอีกครั้ง
หากคุณลองทำทุกอย่างที่ว่ามาด้านบนแล้ว แต่มอเตอร์ไซค์ยังคงแข็งกระด้างอยู่ ขับขี่ไม่นุ่มนวลอยู่เช่นเดิม ขอให้คุณลองตรวจสอบสภาพโช๊คอัพอีกครั้ง แม้ว่าเพิ่งจะเปลี่ยนมาใหม่ก็ตาม เพราะอาจเป็นไปได้ว่ากระบอกโช๊คอัพมีรอยบุบ หรือแกนโช๊คอัพคดงอ ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุหลังจากเปลี่ยนได้ไม่นาน หรืออาจจะเกิดระหว่างการเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นคุณอาจต้องเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่อีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยและการขับขี่ที่นุ่มนวล
วิธีการตรวจโช๊คอัพเสื่อมสภาพ
Profender ขอฝากวิธีเช็กโช๊คอัพว่าเสียหรือเสื่อมสภาพมาฝากด้วยเช่นกัน
- ใช้งานเกิน 100,000 กิโลเมตรหรือประมาณ 5 ปี ซึ่งเป็นทั้งสองแบบนี้คืออายุการใช้งานเฉลี่ยของโช๊คอัพใหม่
- กระบอกมีรอยบุบ รอยยุบ เนื่องจากโดนแรงกระแทกที่ตัวกระบอกโช๊คอัพ หรือโดนชน
- แกนโช๊คอัพคดงอ บิด ไม่เป็นเส้นตรงตามเดิม อาจเกิดจากขี่มอเตอร์ไซค์ตกหลุมแรง ๆ
- มีคราบน้ำมันรั่วซึมออกมาบริเวณปากกระบอกโช๊คอัพ ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะซีลยางกันน้ำมันเสื่อมสภาพ ฉีกขาด หรือกรอบ
- โช๊คอัพไม่ยุบตัว เมื่อขับขี่จะรู้สึกถึงความแข็งกระด้าง ต้องเกร็งข้อมือ แขน ไหล่เพื่อบังคับให้รถทรงตัวได้ดี ไม่ล้ม
- โช๊คอัพยุบตัวเร็วเกินไป รู้สึกถึงความยวบและดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้บังคับรถยาก หน้าปัดท้ายปัด
หากรถมอเตอร์ไซค์มีอาการเหล่านี้ แสดงว่าโช๊คอัพเสื่อมสภาพหรือโช๊คอัพตาย ต้องเปลี่ยนเสียใหม่ให้เร็วที่สุด
หากเพื่อน ๆ อยากเปลี่ยนโช๊คอัพมอเตอร์ไซค์ใหม่เพื่อให้ขับขี่ได้นุ่มนวลโดนใจขึ้นกว่าเดิม หรือต้องการคำปรึกษาเรื่องโช๊คอัพตัวใหม่ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟสบุ๊ค Profendershox
สินค้าที่น่าสนใจ
REVO ROCCO