เคยไหม คุณเพิ่งไปเปลี่ยนโช๊คอัพมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ แต่ อาการรถแข็งกระด้าง กลับยังไม่หายไปเสียที จนคิดอยากเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่อีกรอบหรือไม่ก็เปลี่ยนรถคันใหม่ให้จบเรื่องไป หากเคย เราขอแนะนำให้ใจเย็น ๆ ก่อน เพราะ Profender มีทางแก้ที่ง่ายกว่านั้นมาให้คุณ
โช๊คอัพทำหน้าที่อะไร
เมื่อรถมีอาการแข็งกระด้าง ไม่มีความนุ่มนวลในการขับขี่สักเท่าไร สิ่งแรก ๆ ที่ถูกสงสัยว่าเป็นต้นเหตุก็คือ โช๊คอัพ เพราะโช๊คอัพคืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ซับแรงกระแทกกระเทือนต่าง ๆ ที่ส่งมาจากพื้นถนนขึ้นมาสู่ยาง ซึ่งส่งต่อมายังล้อ สปริง และเจอเข้ากับโช๊คอัพ หากโช๊คอัพทำหน้าที่ได้ดี แรงสะเทือนจะถูกโช๊คอัพซับเอาไว้ กันไม่ให้ไปถึงห้องโดยสาร รถยนต์จึงขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล
แต่หากโช๊คอัพเสื่อมสภาพแล้ว แรงสะเทือนก็จะเดินทางไปยังห้องโดยสารจนคุณรู้สึกได้
วิธีแก้ อาการรถแข็งกระด้าง
ดังนั้นเมื่อรถมีอาการแข็งกระด้าง ผู้ต้องสงสัยหมายเลข 1 จึงมักเป็นโช๊คอัพ แต่หากว่าคุณเพิ่งเปลี่ยนโช๊คอัพไปใหม่ๆ
ไม่มีทางที่โช๊คอัพจะเป็นต้นเหตุได้ คุณอาจจะต้องแก้ไขส่วนอื่นๆ ตามรายการดังต่อไปนี้
เปลี่ยนยางรถยนต์
หากยางรถยนต์เสื่อมสภาพแล้ว เนื้อยางจะแข็ง ความยืดหยุ่นจะหมดไป เมื่อหน้ายางกระทบพื้นถนนจึงยางจึงไม่อาจช่วยซับแรงกระแทกได้ คุณจึงรับรู้ได้ถึงความแข็งกระด้างแบบเต็ม ๆ นอกจากนี้ยางที่เสื่อมสภาพนี้ยังส่งผลถึงประสิทธิภาพในการขับขี่ ยางจะไม่เกาะถนน ลื่นน้ำ ส่งเสียงดังน่ารำคาญ หากยังทนใช้ไปนาน ๆ ยางอาจระเบิดได้
ที่สำคัญเลยคือคุณควรเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพสูง อย่าซื้อยางเพราะราคาถูก เพราะหากได้ยางคุณภาพต่ำ ผ่านไปไม่กี่เดือนยางเหล่านั้นก็จะเสื่อมสภาพ เนื้อยางแข็ง คุณก็ต้องซื้อยางเส้นใหม่มาเปลี่ยนอยู่ดี
เช็กลมยาง
หากคุณเพิ่งเปลี่ยนทั้งโช๊คอัพและยางคุณภาพดีมาใหม่ แต่รถยังแข็งกระด้างอยู่ ปัญหาอาจอยู่ที่ลมยางก็เป็นได้ หากลมยางแข็งเกินไปจะส่งผลให้รถแข็งกระด้างได้เช่นกัน ยิ่งหากคุณเติมลมยางแข็งอยู่แล้ว เมื่ออากาศร้อน ลมยางจะยิ่งแข็งขึ้นกว่าเดิม คุณก็จะรู้สึกถึงความแข็งกระด้างมากขึ้น ดังนั้นคุณควรเติมมยางให้เหมาะสมกับประเภทรถและการใช้งานเพื่อช่วยให้ยางซับแรงกระแทกต่าง ๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิม
เปลี่ยนขนาดล้อ
สิ่งที่ส่งผลต่อความแข็งกระด้างของรถยนต์อีกอย่างคือหน้ายาง ยิ่งหน้ายางกว้างก็ยิ่งสัมผัสกับพื้นถนนมาก ยิ่งสัมผัสมากก็จะยิ่งเจอกับความแข็งกระด้างของการขับขี่มากขึ้น ซึ่งหน้ายางกับขนาดของล้อมีความสัมพันธ์กัน ขนาดล้อที่ใหญ่ขึ้น หน้ายางก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย และยิ่งล้อใหญ่ แก้มยางก็จะยิ่งบางลง รถก็จะเจอกับความแข็งกระด้างมากขึ้นเช่นกัน
เปลี่ยนสปริง
เลือกสปริงที่มีค่า K ที่แข็งเหมาะสมกับการใช้งาน หากคุณเลือกสปริงแข็งหรือมีค่า K ที่เหมาะกับการ ‘รับโหลด’ หรือการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่ม เช่น ติดวินซ์ (Winch) หรือรอกไฟฟ้าซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 50-100 กิโลกรัม รถของคุณก็จะแข็งกระด้าง เพราะว่าสปริงที่แข็งเช่นนั้นออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นหากคุณเลือกกันชนที่เหมาะกับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมแต่นำมาใช้มาแบบปกติทั่วไป รถของคุณจะแข็งกระด้างมากขึ้น
เปลี่ยนวิธีโหลดเตี้ย
หากคุณโหลดรถให้เตี้ยลงด้วยวิธีผิด ๆ อย่างการตัดสปริงให้สั้นลงด้วยแก๊สแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ถอดสปริงตัวนั้นทิ้งไปแล้วเปลี่ยนวิธีโหลดรถใหม่และเปลี่ยนสปริงใหม่เสีย เพราะการตัดสปริงด้วยความร้อนสูงจากแก๊สจำเป็นต้องทำให้เย็นทันทีด้วยการจุ่มน้ำ ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้ความยืดหยุ่นของเนื้อเหล็กหายไป เมื่อความยืดหยุ่นหายไป สปริงก็ไม่อาจยืดหรือยุบตัวตามแรงกระแทกได้ นั่นหมายความว่ามันจะไม่ช่วยซับแรงกระแทกใด ๆ ได้ คุณถึงรู้สึกถึงความแข็งกระด้างเต็ม ๆ นอกจากนี้ยังมีอัตรายกว่านั้นอีก…เพราะสปริงอาจหักได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ
แต่หากรถของคุณแข็งกระด้างเพราะโช๊คอัพเสื่อมสภาพแล้วและอยากเปลี่ยนโช๊คอัพตัวใหม่ แต่ติดอยู่ตรงที่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกโช๊คอัพรุ่นไหนดี เราขอแนะนำโช๊คอัพ Profender ที่มีให้เลือกตรงรุ่นรถยนต์หลายยี่ห้อและหลายรุ่น รวมไปถึงออกแบบมาให้เหมาะสมกับประเภทการใช้งานที่แตกต่างกันอีกด้วย แต่หากไม่แน่ใจจริง ๆ เรายังมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอีกด้วย โดยติดต่อสอบถามได้ที่ Facebook Profendershox
บทความที่น่าสนใจ
สินค้าที่น่าสนใจ
EVEREST BITURBO
EVEREST