รู้หรือไม่ สีน้ำมันเครื่อง สามารถบอกได้ว่าเครื่องยนต์รถของคุณมีสุขภาพเป็นอย่างไร ดีหรือไม่ เกิดจากอะไร และได้เวลาเปลี่ยนแล้วหรือยัง พร้อมด้วยวิธีเช็กสีน้ำมันเครื่องก็ทำได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้าน ที่โปรเฟนเดอร์นำมาฝาก
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่อะไร
น้ำมันเครื่องทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่น ช่วยลดการสึกหรอของชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ลดแรงเสียดทานระหว่างชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่เคลื่อนไหวต่อกัน ช่วยไม่ให้ความร้อนสะสมมากเกินไป ช่วยกันไม่ให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ถูกกัดกร่อนจากการผสมของแก๊สไอเสียและความชื้น ช่วยขับถ่ายสิ่งสกปรกที่ติดมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง และช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
น้ำมันเครื่องมีส่วนประกอบหลัก ๆ คือน้ำมัน และผสมด้วยสารต่าง ๆ เช่น สารป้องกันการกัดกร่อน สารป้องกันการสะสมคราบ และสารป้องกันการเกิดฟองอากาศ ดังนั้นนอกจากน้ำมันเครื่องจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว น้ำมันเครื่องยังช่วยลดความเสียหายต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ได้อีกด้วย
สีของน้ำมันเครื่องบอกสุขภาพของเครื่องยนต์ได้อย่างไร
เพราะน้ำมันเครื่องไหลเข้าสู่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์เพื่อหล่อลื่นการทำงานของชิ้นส่วนต่าง เพื่อลดการเสียดสี และเพื่อลดความร้อน เมื่อน้ำมันเครื่องไหลกลับมายังถังน้ำมันเครื่องอีกครั้งอาจนำพาสารต่าง ๆ จากเครื่องยนต์กลับมาด้วย และสารเหล่านี้เมื่อผสมเข้ากับน้ำมันเครื่องอาจทำให้น้ำมันเครื่องเปลี่ยนสีไป โดยสีเหล่านี้จะบ่งบอกได้ว่าเครื่องยนต์ ณ ขณะนั้นมีสุขภาพอย่างไร มีความผิดปกติหรือไม่ โดยสีน้ำมันเครื่องแต่ละสีจะแสดงถึงสุขภาพของเครื่องยนต์แตกต่างกันออกไป ดังนี้
น้ำมันเครื่องสีเหลืองหรือสีชมพู
สีปกติของน้ำมันเครื่องมักเป็นสีเหลืองใสหรือสีชมพูใส หากน้ำมันเครื่องเป็นสีใดสีหนึ่งตามนี้ สีเหมือนน้ำมันเครื่องที่เพิ่งเปลี่ยนตอนแรก ๆ หมายความว่าเครื่องยนต์ของคุณมีสุขภาพดี ปกติดี
น้ำมันเครื่องสีดำ
หากน้ำมันเครื่องเป็นสีดำ คุณควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ทันที เพราะนี่เป็นสัญญาณว่าน้ำมันเครื่องหมดอายุการใช้แล้ว น้ำมันเครื่องเหล่านี้ได้ดูดเอาฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกมาจากชิ้นส่วนเครื่องยนต์เป็นจำนวนมาก
หรือหากว่าคุณเพิ่งเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ ๆ แต่น้ำมันเครื่องกลับเป็นสีดำในทันที สาเหตุอาจเกิดจากระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน สิ่งสกปรกจึงผสมเข้ามายังน้ำมันเครื่องมากจนผิดปกติ
น้ำมันเครื่องสีแดงหรือชมพูขุ่น
น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนเป็นสีแดงหรือชมพูขุ่นเกิดจากการผสมกันของน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์หรือน้ำมันพาวเวอร์ ซึ่งน้ำมันเหล่านี้รั่วซึมมาจากชิ้นส่วนอะไหล่ที่อยู่ในระบบขับเคลื่อนของรถยนต์
น้ำมันเครื่องขุ่นหรือมีขุยผสม
น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนเป็นสีขุ่นหรือมีเศษขุย ๆ ผสมมีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น ใช้น้ำมันเครื่องไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ ฝืนใช้น้ำมันเครื่องนานเกินไป น้ำรั่วซึมจากหม้อน้ำหรือน้ำมันอื่น ๆ ผสมปนเปื้อนกับน้ำมันเครื่อง หรือท่อยางต่าง ๆ เสื่อมสภาพจนเปื่อยยุ่ยแล้วปนมากับน้ำมันเครื่อง
วิธีการตรวจเช็ก สีน้ำมันเครื่อง ด้วยตัวเอง
การตรวจเช็กว่าน้ำมันเครื่องของคุณยังมีประสิทธิภาพเช่นเดิมหรือไม่ สียังคงเป็นสีเหลืองหรือชมพูใสหรือไม่ หรือเปลี่ยนเป็นสีอื่น ๆ ที่ต้องการการบำรุงรักษาแล้วหรือยัง ทำได้ง่ายมาก คุณสามารถทำเองที่บ้าน ไม่ต้องพึ่งพาช่างและไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษใด ๆ ใช้เพียงแท่งวัดที่ติดมากับรถยนต์และผ้าหรือเศษกระดาษสะอาดเท่านั้น
- จอดรถยนต์ไว้บนพื้นราบ ปล่อยให้เครื่องยนต์เย็นลงประมาณ 15 นาทีหรือจนกว่าจะเย็นสนิท เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ
- เปิดฝากระโปรงหน้ารถยนต์ หาก้านวัดน้ำมันเครื่องซึ่งเป็นแท่งเหล็กยาว ๆ มีหัวจับพลาสติกสีแดงหรือส้มบริเวณห้องเครื่อง หากหาไม่พบ แนะนำให้เปิดดูคู่มือการใช้งานของรถยนต์
- ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมากแล้วถูกก้านกับผ้าสะอาด
- เสียบก้านวัดกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม
- เช็กดูว่าสีของน้ำมันเครื่องเป็นอย่างไรและมีเศษฝุ่นหรือขุยอะไรหรือไม่
บทสรุป
หากน้ำมันเครื่องของคุณเปลี่ยนสีไปตามสีต่าง ๆ อย่างที่กล่าวมา สิ่งที่คุณควรทำด่วนที่สุดคือเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่ที่ยังใสสะอาดเข้าไปโดยเร็ว เพื่อให้น้ำมันเครื่องช่วยหล่อลื่น ลดการสึกหรอ และช่วยดูแลความสะอาดในกับเครื่องยนต์ ไม่ควรฝืนทนใช้ต่อเพราะสิ่งสกปรกไหลกลับเข้าไปยังเครื่องยนต์อีกครั้ง
นอกจากนี้คุณยังควรเช็กและเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีอาการรั่วซึมหรือเสื่อมสภาพ เพื่อกันไม่ให้สารหรือน้ำมันประเภทอื่น ๆ ไหลไปปะปนกับน้ำมันเครื่องจนเป็นเหตุให้การหล่อลื่นและการลดความร้อนของเครื่องยนต์ลดประสิทธิภาพลง พบกับเคล็ดลับดูแลรักษายนต์ การดูแลรักษาช่วงล่าง และการปรับช่วงล่างรถยนต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Profender4x4.com หรือหน้าเฟสบุ้ก Profendershox
บทความที่น่าสนใจ
สินค้าที่น่าสนใจ
D-MAX 4WD/ HILANDER TORSIONBAR
MITSUBISHI
ISUZU