รีบาวนด์ (Rebound) คืออะไร สำคัญอย่างไร และ วิธีการปรับค่ารีบาวนด์โช๊ค อัพแบบต่าง ๆ
คุณเคยได้ยิน คำว่า ค่ารีบาวนด์ (Rebound) ของโช๊คอัพ หรือไม่ เคยสงสัยหรือไม่ ว่ามันคืออะไร ทำไมถึงส่งผลต่อการขับขี่ ทั้งด้านความนิ่มนวล และ การเกาะถนน ปรับค่ารีบาวนด์แล้วประโยชน์อย่างไร และต้องทำอย่างไร Profender มีคำตอบให้คุณในบทความนี้
รีบาวนด์ (Rebound) คืออะไร
รีบาวนด์ (Rebound) คือจังหวะคืนตัวของโช๊คอัพหรือความเร็วในการยืดตัวของลูกสูบในกระบอกโช๊คอัพ เพื่อรั้งการยืดตัวของสปริงหรือแหนบที่ตัวรถ ส่งผลต่อการขับขี่โดยตรง เพราะหากโช๊คอัพคืนตัวไวเกินไป (ค่ารีบาวนด์น้อยหรือสปริงยืดตัวเร็ว) จะทำรู้สึกได้ว่ารถโคลงเคลงไปมา แต่หากโช๊คอัพคืนตัวช้าเกินไป (ค่ารีบาวนด์มากหรือสปริงยืดตัวช้า) ก็จะทำให้รู้สึกว่ารถแข็งกระด้าง
ทำไมต้องปรับรีบาวนด์ (Rebound)
การปรับค่ารีบาวนด์คือการปรับค่าความเร็วในการยืดตัวของลูกสูบในกระบอกโช๊คอัพซึ่งจะส่งผลต่อการยืดตัวของสปริงหรือแหนบที่ตัวรถ เพราะโช๊คอัพจะทำหน้าที่รั้งสปริงนี้เอาไว้ โดยการปรับค่ารีบาวนด์ทำได้โดยปรับขนาดทางไหลผ่านของน้ำมันไฮดรอลิกเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราการไหลผ่านของน้ำมันที่อยู่ในกระบอกโช๊คอัพ การปรับค่านี้มี 2 แบบคือ
การปรับค่าแข็ง หรือค่ารีบาวนด์มาก
คือการปรับวาล์วให้เปิดแคบ น้ำมันไหลผ่านได้น้อยและช้า การยืดตัวกลับของลูกสูบโช๊คอัพจึงมีความหนืดมาก ช้ามาก หรือหนืดค่อนข้างมาก เพราะน้ำมันไฮดรอกไหลผ่านเข้าไปในกระบอกลูกสูบน้อย ลูกสูบคืนตัวช้า โช๊คอัพคืนตัวช้า ดังนั้นจึงรั้งให้สปริงยืดตัวได้ช้าเช่นกัน การขับขี่จึงค่อนข้างมีความหนึบ แต่ก็เกาะถนนได้เป็นอย่างดี เหมาะการใช้งานที่ใช้ความเร็วสูง
การปรับค่านิ่ม หรือค่ารีบาวนด์น้อย
คือการปรับวาล์วให้เปิดกว้าง เมื่อน้ำมันไฮดรอลิกไหลผ่านได้มากและเร็ว การยืดตัวกลับของลูกสูบโช๊คอัพจึงมีความหนืดน้อยมาก พอแรงรั้งสปริงน้อยลง สปริงจึงยืดตัวเร็วจึงส่งผลให้การขับขี่ค่อนข้างนุ่มนวล เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง อาจจะไม่เกาะถนนได้ดีเท่าค่ารีบาวนด์มาก การปรับรีบาวนด์น้อยจึงเหมาะกับการขับขี่ที่ใช้ความเร็วไม่มาก
ข้อควรระวังในการปรับรีบาวนด์ (Rebound)
สิ่งที่ควรระวังมากเป็นพิเศษเมื่อคุณต้องการปรับรีบาวนด์หรืออัตราความสามารถในการรั้งสปริงของโช๊คอัพก็คือ ไม่ควรปรับค่ารีบาวนด์มากเกินไปทำให้โช๊คอัพหนึบ เฟิร์มอาจทำให้ห้องโดยสารนั่งไม่สบาย กระเด้งกระดอนเมื่อเจอกับถนนสภาพแย่ แต่ก็ไม่ควรปรับให้ค่ารีบาวนด์น้อยเกินไปจนทำให้โช๊คอัพย้วยยวบ การรั้งตัวของสปริงเป็นไปได้ช้า เพราะจะทำให้รถโคลงเคลง ส่ายไปมา ไม่เกาะถนน
ทางที่ดีคือคุณควรปรับค่ารีบาวนด์ตามค่ามาตรฐานที่คู่มือแนะนำ แล้วหากยังไม่ถูกก็ค่อย ๆ ปรับค่าขึ้นลงทีละน้อยเพื่อให้ได้ระดับความหนืดที่ต้องการ เพื่อให้ดึงประสิทธิภาพของโช๊คอัพออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังทั้งมีความปลอดภัยและระดับการนั่งสบายตามที่คุณพอใจ
วิธีการปรับรีบาวนด์ (Rebound) โช๊คอัพ
โช๊คอัพของทาง Profender มีหลากหลายรุ่นที่สามารถปรับได้ ทั้งปรับรีบาวนด์ และปรับไม่ได้แต่สำหรับรุ่นที่มีการปรับรีบาวนด์ ก็มีการออกแบบให้ใช้งานง่าย มีเบอร์บอกอย่างชัดเจนว่าคุณปรับอยู่ในระดับไหนสามารถใช้มือเปล่าโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดๆ
หมุนปรับด้วยมือเปล่า
โช๊คอัพรุ่นที่มีการออกแบบปุ่มปรับรีบาวนด์มาให้ลูกค้าใช้งานง่าย มีทั้งปรับ 8 ระดับ และ 24 ระดับ
รุ่น 8 ระดับ จะอยู่ในโช๊คอัพรุ่น Tune Series สามารถได้ทั้งคอมเพสและรีบาวนด์ ปรับได้ขาละ 8 ระดับ โดยค่ากลางมาตรฐานจะอยู่ที่เบอร์ 4 หากต้องการความนุ่มนวลจะใช้การปรับเบอร์น้อยกว่าลงมาจากค่ากลาง เช่น เบอร์ 3,2,1 และหากต้องการความหนึบเฟิร์มที่มากขึ้นจะใช้การปรับเบอร์สูงกว่าขึ้นไปจากค่ากลาง เช่น เบอร์ 5,6,7 และ 8 เป็นต้น
หากคุณมองหาโช๊คอัพที่มีออปชันปรับรีบาวนด์ (Rebound) ได้ โช๊คอัพมาตรฐานการส่งออกและมีคุณภาพพสูงอย่างโช๊คอัพยี่ห้อ Profender ก็มีให้เลือก สามารถปรับค่ารีบาวนด์ได้ ขึ้นอยู่กับรุ่นโช๊คอัพที่คุณเลือก เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลโดนใจและยังคงการเกาะถนนได้ดีเยี่ยมจนสร้างความมั่นใจให้คุณทุกการเดินทาง
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม Facebook: Profendershox
บทความที่น่าสนใจ
สินค้าที่น่าสนใจ
CHEVROLET
NISSAN