เปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

Profender เปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

เปลี่ยนโช๊คอัพ เป็นการบำรุงรักษาที่สำคัญซึ่งเจ้าของรถไม่ควรมองข้าม เพราะโช๊คอัพทำหน้าที่ช่วยซับแรงกระแทกจากการขับขี่บนถนนที่ขรุขระไม่เรียบ รับน้ำหนักรถยนต์ และยังช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของล้อซึ่งส่งผลต่อการขับขี่และควบคุมรถยนต์ ดังนั้นคุณจึงควรเปลี่ยนโช๊คอัพทันทีหากโช๊คอัพเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งาน แต่ก่อนที่คุณจะเปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ Profender มีคำแนะนำว่าคุณควรต้องคำนึงถึงอะไรบ้างเมื่อต้องเปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์

อายุการใช้งานและสัญญาบ่งบอกว่าถึงเวลาเปลี่ยนโช๊คอัพ

สิ่งแรกที่เจ้าของรถยนต์ควรรู้คือ อายุการใช้งานโช๊คอัพ ใช้นานแค่ไหนถึงได้เวลาเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่แล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วโช๊คอัพมีอายุการใช้งานประมาณ 80,000-100,000 กิโลเมตร หรือ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่รถยนต์เป็นหลัก

แต่ทั้งนี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่โช๊คอัพอาจเสื่อมสภาพก่อนอายุการใช้งาน ซึ่งไม่ได้ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด สาเหตุอาจเพราะคุณใช้งานรถยนต์อย่างสมบุกสมบัน ขับขี่ด้วยความเร็วเป็นประจำ บรรทุกหนักเกินไป หรือโช๊คอัพพังจากการซับแรงกระแทกที่รุนแรงมากเกินไป ซึ่งคุณสามารถสังเกตอาการได้เอง หากว่ารถยนต์ของคุณมีอาการดังต่อไปนี้ คุณต้องเปลี่ยนโช๊คอัพโดยไว

อาการโช๊คที่ต้องเปลี่ยน

  • โช๊คอัพมีน้ำมันไฮดรอลิกไหลเยิ้มออกมา
  • กระบอกโช๊คอัพหรือชิ้นส่วนอื่น ๆ เสียรูปทรง บิดงอ หรือแตก
  • มีเสียงดังกึก ๆ กัก ๆ รถโคลงเคลงไปมา ห้องโดยสารไม่นุ่มนวลขณะขับขี่
  • รถไม่เกาะถนน เข้าโค้งไม่เฉียบ บังคับพวงมาลัยยาก การทรงตัวของรถผิดปกติ ไม่นิ่ง
  • ระยะเบรกผิดปกติ ระยะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Profender คนถือโช๊คสีดำ

ซ่อมโช๊คอัพหรือเปลี่ยนโช๊คอัพตัวใหม่ แบบไหนดีกว่ากัน

โช๊คอัพบางรุ่นบางยี่ห้อสามารถซ่อมได้ ซึ่งการซ่อมโช๊คอัพจะเป็นการซ่อมแบบ Overhaul หรือยกเครื่องใหม่ คือการเปลี่ยนซีลน้ำมัน โอริงกันน้ำมัน โอริงลูกสูบ เปลี่ยนซับแทงก์ เติมน้ำมันไฮดรอลิก และปรับระดับความนุ่มหนืดของโช๊คอัพให้เหมาะสมตามสไตล์การขับขี่รถยนต์ของคุณ

แต่ก็มีข้อยกเว้น หากโช๊คอัพของคุณเกิดความเสียหายรุนแรง เช่น กระบอกโช๊คอัพบุบหรือแตก แกนโช๊คอัพบิดงอ คุณควรเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ทั้งตัว ไม่ควรซ่อม เพราะราคาการเปลี่ยนกระบอกหรือแกนโช๊คอัพใหม่ค่อนข้างสูงหรืออาจจะมีราคาพอ ๆ กับโช๊คอัพตัวใหม่ ซึ่งการเปลี่ยนเฉพาะจุดอาจไม่คุ้มค่าสักเท่าไร

ดังนั้นหากว่ากระบอกโช๊คอัพหรือแกนโช๊คอัพไม่ได้เสียหาย คุณสามารถเลือกได้ทั้งการซ่อมโช๊คอัพเพื่อประหยัดงบประมาณ แต่หากคุณมีงบประมาณเยอะ การเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ทั้งชุดอาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมกับคุณเช่นกัน