ทำไมต้องเปลี่ยนสปริงโช๊คมอไซค์ เมื่อบรรทุกเกิน 120 กก

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมถึงควรเปลี่ยน สปริง โช๊คอัพรถมอเตอร์ไซค์เมื่อต้องบรรทุกน้ำหนักมากกว่า 120 กิโลกรัม ความรู้ตอนใช้งานมันแตกต่างกันอย่างไร หรือจำเป็นมากน้อยแค่ไหน คุ้มค่าหรือไม่ หากไม่เปลี่ยนจะเปลี่ยนอย่างไร 

ทำไมต้องเปลี่ยน สปริง โช๊คอัพมอเตอร์ไซค์

ทำไมคุณถึงควรเปลี่ยนสปริงโช๊คอัพหากว่าต้องบรรทุกน้ำหนักกว่า 120 กิโลกรัมหรือเมื่อมีคนซ้อนท้ายเป็นประจำ

เหตุผลคือ การค่าความแข็งของสปริงที่มีความเกี่ยวเนื่องต่อการยืดยุบของโช๊คอัพ ซึ่งจะส่งผลต่อการขับขี่ที่นุ่มนวลและเกาะถนน

Profender จะอธิบายแยกให้เห็นภาพดังนี้

น้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 120 กิโลกรัม

สปริงโช๊คอัพรถมอเตอร์ไซค์ที่มาจากโรงงานมักออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 120 กิโลกรัม สปริงโช๊คอัพมักมีความนิ่มและตั้งพรีโหลดไม่สูงนัก จึงมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับรับน้ำหนักไม่เกิน 120 กิโลกรัม เพราะหากหนักกว่านั้น สปริงโช๊คอัพที่มีความนิ่มจะยุบตัวลงไปค่อนข้างมากและดีดตัวกลับอย่างรวดเร็ว ทำให้การขับขี่กระเด้งกระดอนค่อนข้างมาก 

นอกจากนี้สปริงโช๊คอัพที่มีความนิ่มจะมีระยะยุบตัวมากเกินควร เมื่อสปริงมีระยะยุบยืดมากไป โช๊คอัพการยุบตัวรุนแรงและรวดเร็ว ประสิทธิภาพการเหนี่ยวรั้งกระบอกลูกสูบภายในก็น้อยตามไปด้วย รถก็จะยวบยาบ ทั้งยังทรงตัวได้ยาก อาจหลุดโค้งได้ง่าย ๆ 

น้ำหนักบรรทุกเกิน 120 กิโลกรัม

ในขณะที่สปริงโช๊คอัพที่เหมาะกับน้ำหนักบรรทุกมากกว่า 120 กิโลกรัมจะมีความแข็งมากกว่า จึงรองรับน้ำหนักที่มากกว่าได้ โอกาสเกิดการยุบยวบยาบก็จะน้อยกว่านั่นเอง

แต่หากว่าคุณเลือกสปริงแข็งมากเกินไปก็อาจเจอกับการขับขี่อันแข็งกระด้างได้ เพราะเมื่อเจอกับสภาพถนนเป็นหลุมบ่อหรือเจอลูกระนาดเข้า สปริงที่แข็งนี้จะไม่มีระยะยุบตัวให้โช๊คอัพ ต้านไม่ให้โช๊คอัพยุบตัว เมื่อโช๊คอัพไม่ยุบตัว การซับแรงกระแทกก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแรงกระแทกจะส่งผลมาถึงคุณ หรือเลือกใช้ชุดอัพเกรด Front fork kit มาช่วยปรับสมดุลโช๊คด้านหน้าและหลัง ด้วยการปรับสปริงที่มีอยู่ในชุดแล้ว

ค่าพรีโหลด

ค่าพรีโหลด (Preload) คือ การกดสปริงให้สามารถรับน้ำหนักได้มากหรือน้อย โดยอิงกับน้ำหนักบรรทุกที่ใช้เป็นประจำ หากปรับค่าพรีโหลดสูง สปริงจะแข็ง จะบรรทุกได้มาก แต่ก็ต้องแลกมากกับการขับขี่ที่ค่อนข้างแข็งกระด้าง