เคยได้ยินคำว่า ‘โช๊คอัพแตก’ หรือไม่ อาการโช๊คอัพแตกคืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร สาเหตุมาจากการขับขี่ เพราะโช๊คอัพ หรือเพราะการดูแลรักษา? หากโช๊คอัพรถยนต์ของคุณแตกจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันตรายอย่างไร Profender ได้รวบรวมข้อมูลเรื่องโช๊คอัพแตกมาฝากในบทความนี้แล้ว
โช๊คอัพแตก คืออะไร
โช๊คอัพแตกเกิดจากอะไร
โช๊คอัพแตกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากการใช้งาน การติดตั้ง หรือแม้แต่การดูแลรักษ ซึ่งหากมีข้อใดข้อหนึ่งตรงกับลักษณะการใช้งานของคุณ นั่นอาจหมายความว่าโช๊คอัพของคุณเสี่ยงแตกได้
- ขับขี่บนถนนขรุขระหรือลาดชันมาก ๆ เป็นประจำ โช๊คอัพจะได้รับแรงกระแทกมากเกินไป ชิ้นส่วนภายในเสื่อมสภาพเร็ว ซีลยางที่ป้องกันน้ำมันรั่วซึมอาจเสียหายไวขึ้น กระบอกโช๊คอัพอาจแตกได้
- การขับขี่บนถนนไม่เรียบด้วยความเร็วสูงจะเพิ่มแรงกระแทกที่โช๊คอัพต้องรับและกระจายมากขึ้น ชิ้นส่วนภายในจึงเกิดความเสียหายได้ง่ายขึ้น
- บรรทุกน้ำหนักมาก ๆ เกินพิกัดที่ระบบช่วงล่างรองรับได้ ทำให้โช๊คอัพทำงานหนัก ได้รับแรงดันมากเกินไป สปริงหรือซีลจะเสื่อมสภาพไวขึ้นหรือมีโอกาสแตกหักมากขึ้น
- การจัดเรียงน้ำหนักไม่สมดุลเมื่อต้องบรรทุกสิ่งของ ทำให้โช๊คอัพแต่ละตัวรับน้ำหนักไม่เท่ากัน โช๊คอัพบางตัวทำงานหนักกว่าตัวอื่น ๆ จึงมีโอกาสแตกหรือเสียไวกว่าเดิม
- ใช้โช๊คอัพคุณภาพต่ำ ผลิตจากวัสดุคุณภาพต่ำหรือไม่ได้มาตรฐาน อายุการใช้งานจึงสั้นตามไปด้วย ทนแรงกระแทกได้น้อยกว่า โอกาสแตกหรือเสื่อมสภาพจึงเร็วกว่าโช๊คอัพที่ได้มาตรฐาน
- ใช้โช๊คอัพที่หมดอายุการใช้งานแล้ว โช๊คอัพที่ใช้งานมาเป็นเวลานานจะเสื่อมสภาพ ไม่สามารถซับแรงกระแทกได้ โอกาสที่จะแตกหรือรั่วซึมก็มีมากไปตามระยะเวลา
- ติดตั้งโช๊คอัพไม่ถูกต้องหรือผิดพลาด แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ อย่างการขันนอตไม่แน่นอาจส่งผลให้โช๊คอัพทำงานไม่ปกติได้ จึงมีโอกาสทำให้โช๊คอัพแตกหักหรือเสื่อมสภาพ
- ใช้โช๊คอัพไม่ตรงกับรุ่นและยี่ห้อรถยนต์ หรือมีการดัดแปลงโช๊คอัพจนเสียหาย ดังนั้นโช๊คอัพอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจเสื่อมสภาพหรือแตก
โช๊คอัพแตกมีอาการและข้อสังเกตอย่างไร
หากคุณสงสัยว่าโช๊คอัพรถยนต์ของคุณแตกหรือไม่ Profender ได้รวบรวมอาการหรือสัญญาณที่บอกว่าโช๊คอัพของคุณแตกหรือเสื่อมสภาพเอาไว้แล้ว หากเช็กแล้วว่ารถยนต์ของคุณมีอาการเหล่านั้นแม้เพียงข้อเดียว ก็ขอแนะนำให้นำรถเข้าศูนย์หรืออู่เพื่อตรวจสอบโดยไว เพราะอาการนั้นอาจส่งผลต่อการทำงานของโช๊คอัพและความปลอดภัยในการขับขี่ได้
- รถสั่นสะเทือนมากขึ้นเมื่อวิ่งบนถนนขรุขระไม่เรียบ
- รถโยกหรือโยนตัวมากขึ้นเมื่อขับตกหลุมหรือขึ้นเนิน
- ควบคุมทิศทางหรือบังคับรถได้ยากมากขึ้น
- ได้ยินเสียงดังกุกกักหรือดังแปลก ๆ จากช่วงล่างหรือใต้ท้องรถยนต์
- มีน้ำมันรั่วซึมหรือมีคราบน้ำมันอยู่ตรงบริเวณโช๊คอัพ
- หน้ายางมีรอยสึกไม่เท่ากัน เป็นเส้น ๆ บั้ง ๆ หรือเป็นริ้ว ๆ ไม่ได้สึกแบบสม่ำเสมอ
- ระยะเบรกยาวมากขึ้น
- รถสูงหรือต่ำกว่าปกติ หรือสูงไม่เท่ากัน ด้านใดด้านหนึ่งอาจยุบตัวต่ำกว่าอีกด้าน
โช๊คอัพแตกอันตรายอย่างไร
- ควบคุมรถยากขึ้น รถจะมีอาการโยนตัวมากขึ้น โดยเฉพาะขณะเลี้ยวหรือเบรก
- ยึดเกาะถนนได้ลดลง เพราะโช๊คอัพไม่กดล้อให้ติดแน่นกับนถนนได้ตลอดเวลา ยางรถยนต์จึงทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่อาจเกาะถนนได้ ยิ่งอันตรายมากขึ้นหากวิ่งบนถนนเปียกหรือถนนลื่น
- ระยะเบรกยาวขึ้น เนื่องจากยางรถยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่เกาะถนน จึงเสี่ยงเกิดการชนหรืออุบัติเหตุมากขึ้น
- รถสะเทือนมากขึ้นเพราะโช๊คอัพแตกไม่สามารถซับแรงกระแทกสะเทือนได้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจึงนั่งไม่สบายตัว มีอาการปวดเมื่อยตามมา
- มีเสียงดังกุกกัก ก๊อกแก๊ก หรือมีเสียงกระแทกแปลก ๆ จากช่วงล่างรถยนต์เป็นประจำ ส่งผลต่อสมาธิในการขับขี่ได้
- ยางรถยนต์เสียหายเพิ่มมากขึ้น หน้ายางจะสึกไม่เท่ากัน เป็นริ้ว ๆ เป็นบัง ๆ เนื่องจากหน้ายางสัมผัสพื้นถนนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้หน้ายางเกาะถนนได้ไม่ดีนัก
วิธีป้องกันไม่ให้โช๊คอัพรถยนต์แตก
หลายคนอาจเข้าใจว่าโช๊คอัพแตกหรือเสื่อมสภาพจะส่งผลต่อความนุ่มนวลนั่งสบายของห้องโดยสารเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโช๊คอัพที่แตกหรือเสื่อมสภาพส่งผลต่อช่วงล่างรถยนต์และการควบคุมแทบทั้งหมด แน่นอนว่าส่งผลต่อการความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรงอีกด้วย
- ควรตรวจสอบสภาพโช้คอัพอย่างน้อยทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือเมื่อรู้สึกว่ารถมีอาการผิดปกติ เช่น สั่นสะเทือนมากขึ้น หรือมีเสียงดังจากช่วงล่าง
- เลี่ยงการขับขี่บนถนนที่มีหลุมบ่อหรือขรุขระมาก เพื่อรักษาอายุการใช้งานของโช๊คอัพ
- หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดของรถยนต์ และจัดเรียงน้ำหนักให้สมดุล เพื่อลดภาระของโช๊คอัพ
- เลือกใช้โช๊คอัพที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง แม้ว่าราคาสูงกว่า แต่อายุการใช้งานก็ยาวนานกว่าและปลอดภัยกว่า
- ตรวจสอบและบำรุงรักษาโช๊คอัพอย่างถูกต้องเป็นประจำ และเปลี่ยนโช๊คอัพเมื่อครบกำหนดการใช้งาน
- ขับขี่รถอย่างนุ่มนวล เลี่ยงการเบรกกะทันหันหรือเลี้ยวขณะใช้ความเร็วสูง เพื่อไม่ให้โช๊คอัพรับแรงกระแทกมากเกินไป
สรุป
การป้องกันไม่ให้โช๊คอัพแตกสามารถทำได้โดยการตรวจสอบและบำรุงรักษาโช๊คอัพและช่วงล่างอย่างสม่ำเสมอ ขับขี่อย่างระมัดระวัง และเลือกใช้โช๊คอัพที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง จะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของโช๊คอัพ ป้องกันโอกาสโช๊คอัพแตก และช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย
หากอยากเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ที่มีคุณภาพ ขอแนะนำโช๊คอัพ Profender โช๊คอัพคุณภาพ ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ภายใต้การออกแบบและผลิตที่ได้มาตรฐานการส่งออก เพื่อความปลอดภัยและนุ่มนวลในการขับขี่ หากต้องการจองคิวช่างผู้เชี่ยวชาญของเรา ติดต่อได้ที่ได้ที่ Facebook: Profendershox
บทความที่น่าสนใจ
สินค้าที่น่าสนใจ
FORTUNER