‘หากรถที่โหลดมาแล้วต้องการเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ ต้องทำอย่างไร’ Profender มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ การเปลี่ยนโช๊คอัพสำหรับรถโหลดไม่ยาก เพียงแต่อาจมีขั้นตอนเพิ่มมากขึ้นเล็กน้อย เพราะรถที่โหลดมาคือรถที่ถูกดัดแปลงความสูง ขั้นตอนเหล่านี้จึงเพิ่มเข้ามาเสริมเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพเป็นหลัก
ตรวจสอบความสูงของรถโหลด
ก่อนอื่นคุณควรตรวจสอบว่า รถของคุณถูกโหลดมาแค่ไหน ระดับความสูงใหม่ของรถอยู่ที่เท่าไร เพื่อให้สามารถตีกรอบตัวเลือกโช๊คอัพสำหรับรถโหลดให้แคบลง เพื่อให้ได้โช๊คอัพที่เหมาะสมกับความสูงรถโหลดของคุณ
เช็กระยะยุบตัวของโช๊คอัพและช่วงล่าง
รถโหลดจะมีระยะยุบตัวของช่วงล่างน้อยลง โช๊คอัพจึงอาจกระแทกกับตัวถังรถได้ง่ายขึ้น ดังนั้นคุณควรเลือกโช๊คอัพที่มีการออกแบบให้รองรับระยะยุบตัวที่สั้นลงเพื่อลดปัญหาการกระแทกนี้
เลือกโช๊คอัพที่ออกแบบสำหรับรถโหลดโดยเฉพาะ
ไม่ใช่โช๊คอัพทุกตัวในท้องตลาดจะเหมาะกับรถโหลด ดังนั้นการเลือกโช๊คอัพที่ออกแบบมาสำหรับรถโหลดโดยเฉพาะจะเป็นเรื่องดีที่สุด เนื่องจากโช๊คอัพประเภทนั้นออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของรถโหลด ทั้งเรื่องความยาวของโช๊คอัพ ระยะยุบตัว และเพื่อลดปัญหาเรื่องช่วงล่างอื่น ๆ ที่มักเกิดขึ้นกับรถโหลดอีกด้วย
ตรวจสอบลักษณะการใช้งาน
โช๊คอัพแต่ละรุ่นมักมีคุณสมบัติพิเศษต่างกัน คุณจึงควรเลือกโช๊คอัพให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานหรือไลฟ์สไตล์การขับขี่ให้ได้มากที่สุดเมื่อมีโอกาสเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่ เช่น เน้นการขับขี่ที่นุ่มนวลเพราะใช้ในเมืองเป็นหลัก หรือเน้นโช๊คอัพที่นิ่งหนึบและตอบสนองว่องไวเนื่องจากขับเร็วและใช้เดินทางไกลเป็นประจำ
เลือกสปริงโหลดที่ทำงานเข้ากันได้กับโช๊คอัพโหลด
สปริงก็เป็นอีกชิ้นส่วนช่วงล่างที่สำคัญมาก ต้องทำงานเข้าคู่และสอดประสานกับโช๊คอัพสำหรับรถโหลดได้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นช่วงล่างจะเสียสมดุล ส่งผลให้การขับขี่เป็นไปอย่างไม่มั่นคง อาจคุมรถได้อยาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
ติดตั้งโช๊คอัพสำหรับรถโหลด
การติดตั้งโช๊คอัพสำหรับรถโหลดควรเลือกใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญเรื่องโช๊คอัพรถโหลดโดยเฉพาะ เนื่องการดัดแปลงความสูงมาจะทำให้ค่าต่าง ๆ ของช่วงล่างรถเปลี่ยนไปจากเดิม ช่างผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจเรื่องช่วงล่างรถโหลดเป็นอย่างดีจะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ติดตั้งได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
ปรับตั้งมุมล้อและช่วงล่าง
หลังจากเปลี่ยนโช๊คอัพใหม่แล้ว รถโหลดควรได้รับการตรวจสอบและปรับตั้งมุมล้อใหม่อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าการตั้งค่าต่าง ๆ ของมุมล้อและช่วงล่างถูกตั้งค่าเอาไว้อย่างเหมาะสมแล้ว เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย
ประเภทของโช๊คอัพสำหรับรถโหลด
โช๊คอัพสำหรับรถโหลดมีให้เลือก 2 แบบคือ
- โช๊คอัพที่ออกแบบมาให้มีการบีบอัดที่สั้นกว่าโช๊คอัพปกติ ระยะยุบตัวจึงสั้นกว่า หมดปัญหาเรื่องโช๊คอัพกระแทกกับช่วงล่างเนื่องจากระยะยืดยุบตัวไม่เหมาะสม และประสิทธิภาพการทำงานของโช๊คอัพก็ยังคงทำงานได้เต็มที่ เพราะไม่ได้มีการดัดแปลงใด ๆ เพื่อให้สามารถใช้งานกับรถโหลดได้
2. โช๊คที่สามารถปรับความโหลดได้ หรือที่เรียกว่าโช๊คอัพประเภทสตรัทปรับเกลียว หมุนปรับความสูงของโช๊คอัพได้ที่ตัวโช๊คอัพ ทำให้ไม่ต้องตัดหรือดัดแปลงความยาวของโช๊คอัพ ประสิทธิภาพของโช๊คอัพจึงยังคงเต็มเปี่ยม ที่สำคัญเลยก็คือสามารถหนุมปรับให้รถกลับไปสูงที่ค่าความสูงมาตรฐานได้ทุกเวลาที่ต้องการ
โช๊คอัพสำหรับรถโหลดจาก Profender
Profender มีโช๊คอัพที่ออกแบบมาสำหรับรถโหลดโดยเฉพา มีสตรัทปรับเกลียวเพิ่มหรือลดความสูงของรถยนต์ได้ตามที่คุณต้องการ โหลดได้มาจากถึง LOAD 0.5-2” โดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงช่วงล่างแต่อย่างใด ทั้งยังสามารถหมุนปรับกลับไปยังความสูงมาตรฐานได้เมื่อใดก็ตามที่ต้องการ
โดย Profender มีโช๊คอัพสำหรับรถโหลดหลายรุ่นด้วยกัน ทั้งโช๊คอัพรุ่น Drift สำหรับรถเก๋งโหลดเตี้ย หรือเซตโช๊คอัพสำหรับรถ SUV โหลดเตี้ย หรือหากคุณต้องการคำแนะนำเรื่องช่วงล่างหรือโช๊คอัพสำหรับรถโหลดเตี้ยรุ่นอื่น ๆ คุณสามารถติดต่อขอคำแนะนำจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ Facebook: Profendershox
สรุป
การเลือกโช๊คอัพสำหรับรถโหลดมีความละเอียดอ่อนมากกว่าการเปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ทั่วไป เนื่องจากรถโหลดคือรถที่ถูกดัดแปลงความสูงประเภทหนึ่ง ดังนั้นค่าต่าง ๆ ของช่วงล่างจึงเปลี่ยนไป การเปลี่ยนโช๊คอัพสำหรับรถโหลดจึงควรคำนึงถึงค่าต่าง ๆ เหล่านั้นด้วย เพื่อให้ช่วงล่างรถโหลดทำงานได้อย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยไม่ต่างจากรถคันอื่น ๆ
บทความที่น่าสนใจ
สินค้าที่น่าสนใจ
CHEVROLET
D-MAX V-CROSS 4WD/ HILANDER